พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร] เทวสภา
6. มหาโควินทสูตร
ว่าด้วยมหาโควินทพราหมณ์
[293] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ เขตกรุงราชคฤห์
ครั้งนั้น ปัญจสิขะ คันธรรพบุตร เมื่อราตรีผ่านไป1มีวรรณะงดงามยิ่งนัก เปล่งรัศมี
ให้สว่างไปทั่วภูเขาคิชฌกูฏ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้ว
ยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ข้าพระองค์จะขอกราบทูลข้อความที่ได้สดับรับมาเฉพาะหน้าพวกเทพชั้นดาวดึงส์
แด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เชิญบอกเราเถิด ปัญจสิขะ
เทวสภา2
[294] ปัญจสิขะ คันธรรพบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อ
หลายวันมาแล้ว ในคืนเพ็ญวันอุโบสถ 15 ค่ำ อันเป็นวันปวารณา พวกเทพชั้น
ดาวดึงส์ทั้งสิ้นนั่งประชุมกันในสุธัมมาเทวสภา มีเทพบริษัทมากมายนั่งอยู่โดยรอบ
ท้าวจาตุมหาราชประทับอยู่ในทิศทั้ง 4 คือ
1. ทิศตะวันออกมีท้าวธตรฐมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไป
ทางทิศตะวันตก มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
2. ทิศใต้มีท้าววิรุฬหกมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไปทาง
ทิศเหนือ มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
3. ทิศตะวันตกมีท้าววิรูปักษ์มหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไป
ทางทิศตะวันออก มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
4. ทิศเหนือมีท้าวเวสวัณมหาราช ประทับนั่งผินพระพักตร์ไปทาง
ทิศใต้ มีพวกเทพอยู่เบื้องหน้า
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร] เทวสภา
เมื่อครั้งที่พวกเทพชั้นดาวดึงส์ทั้งสิ้นนั่งประชุมกันในสุธัมมาเทวสภา มีพวก
เทพบริษัทมากมายนั่งอยู่โดยรอบ มีท้าวจาตุมหาราชประทับอยู่ในทิศทั้ง 4 นี้เป็น
ธรรมเนียมในการนั่งของท้าวจาตุมหาราช ข้างหลังถัดออกมาเป็นที่นั่งของข้าพระองค์
ทั้งหลาย
เทพเหล่านั้นประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคแล้ว เดี๋ยวนี้เกิดในสวรรค์
ชั้นดาวดึงส์ รุ่งเรืองเกินเทพเหล่าอื่นด้วยวรรณะและยศ นัยว่า ด้วยเหตุนั้น พวกเทพ
ชั้นดาวดึงส์จึงมีใจยินดี เบิกบานใจ เกิดปีติและโสมนัสว่า ท่านทั้งหลาย หมู่เทพ
เจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง1
[295] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบความ
เลื่อมใสของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ จึงทรงอนุโมทนาด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พวกเทพชั้นดาวดึงส์
มีพระอินทร์เป็นประธาน
ถวายนมัสการพระตถาคตและความดีของพระธรรม
เมื่อเห็นเทพเหล่าใหม่ผู้มีวรรณะและยศ
ผู้เคยประพฤติพรหมจรรย์ในพระสุคต ซึ่งมา ณ ที่นี้ (ด้วย)
ก็พากันบันเทิงใจนัก
เทพเหล่านั้นเป็นสาวก
ของพระผู้มีพระปัญญากว้างขวางดุจแผ่นดิน
ทั้งหมดเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ
รุ่งเรืองเกินเทพเหล่าอื่นในที่นี้
ด้วยวรรณะ ยศ และอายุ
พวกเทพชั้นดาวดึงส์มีพระอินทร์เป็นประธาน
ครั้นเห็นเหตุนี้แล้วพากันเพลิดเพลิน
ถวายนมัสการพระตถาคตและความดีของพระธรรม
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นัยว่า เพราะเหตุนั้น พวกเทพชั้นดาวดึงส์จึงมีใจยินดี
เบิกบานใจ เกิดปีติและโสมนัส สุดจะประมาณได้ กล่าวว่า ท่านทั้งหลาย หมู่เทพ
เจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง